Galaxy Note 21 อาจจะมาไม่มาปีนี้ เพราะภาวะชิปขาดแคลน

Galaxy Note 21 อาจจะมาไม่มาปีนี้ เพราะภาวะชิปขาดแคลน

อ้างอิงจากการพูดคุยกับผู้บริหารระดับสูงของ Samsung แล้วนั้น ทราบมาว่า Galaxy Note 21 นั้นอาจจะไม่มีภายในปีนี้ เนื่อด้วยสภาวะชิปขาดแคลน หลังจากที่มีข่าวลือมาอย่างต่อเนื่องถึงการยุติการผลิตในสายตระกูล Galaxy Note โดยเริ่มที่รุ่น 21 แต่แล้วก็ได้มีการรายงานอีกทางหนึ่งจากผู้บริหารระดับสูงของ Samsung มาว่า จะยังคงมีการผลิตมือถือตระกูลนี้อยู่ หากแต่ว่าจะยังไม่มีเนื่องด้วยสภาวะการขาดแคลนชิปในขณะนี้

โดยการรายงานดังกล่าวนี้มาจากสำนักข่าว Bloomberg 

ที่ได้กล่าวถึงบทสนทนากับ Koh Dong-jin หัวหน้าแผนกมือถือของ Samsung ที่ได้กล่าวว่า ในเวลานี้นั้นมีความไม่สมดุลภายในระบบอุปสงค์อุปทานสำหรับ Semiconductors ที่ถือว่ามีความสำคัญ และมีความต้องการสูง ซึ่งก็ส่งผลให้ทางบริษัทนั้นมีปัญหาในการผลิตชิปมือถือ Exynos 2100 และบริษัทพันธมิตรอย่าง Qualcomm ที่ทำการผลิต Snapdragon 888 ด้วยเช่นกัน

เนื่องด้วยปัญหาที่ว่านี้ทำให้เราไม่สามารถเห็นตัว Galaxy Note ประจำปีนี้ได้ ซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีสำหรับผู้ชื่นชอบในมือถือรุ่นนี้ เนื่องจากข่าวก่อนหน้านี้นั้นล้วนแล้วเป็นไปในแนวทางว่าตัวรุ่นนี้จะถูกยุบออกไป แต่ด้วยข่าวนี้นั้นก็ทำให้เราเห็นว่าทาง Samsung นั้นยังไม่ทิ้งมือถือรุ่นนี้แต่อย่างใด หากแต่เนื่องด้วยสถานการณ์อื่น ๆ ทำให้ต้องหยุดการผลิตไปแทน จากข่าวนี้นั้นทำให้ข่าวลือในการยุติการผลิตในรุ่นนี้จบลงไปในที่สุด แต่ก็ต้องมาดูกันว่าในปี 2022 หน้านี้ Samsung จะนำเสนออะไรใหม่ ไปอีกขั้นหลังจากที่ต้องหยุดไปโดยไม่ตั้งใจไปหนึ่งปี

Google ได้มีการดำเนินการตัด ค่าธรรมเนียมร้านค้า Play Store สำหรับผู้พัฒนาทั้งหลายลงไปอยู่ที่ 15% สำหรับรายได้จำนวน 1 ล้านดอลลาร์ของแต่ละปี Google ได้ทำการประกาศถึงการเปลี่ยนแปลงนโยบายทางร้านค้าขนานใหญ่ โดยจะดำเนินการตัด ค่าธรรมเนียมร้านค้า Play Store ลดลงไปครึ่งหนึ่ง เหลืออยู่ที่ 15% ซึ่งก่อนหน้านี้ทาง Apple ได้มีการปรับใช้แนวทางเดียวกันเมื่อปีก่อน

โดยในประกาศนั้นมีรายละเอียดว่า นโยบายดังกล่าวนั้นจะทำการเริ่มในวันที่ 1 กรกฏาคม 2021 (2564) ทาง Google จะทำการลดค่าธรรมเนียมบริการร้านค้า Play Store ที่จะได้รับการคำนวณ เมื่อผู้พัฒนาได้ทำการขายสินค้า / บริการดิจิทัล ลงไป 15% สำหรับรายได้ที่ได้รับจำนวน 1 ล้านดอลลาร์ในแต่ละปี

ด้วยการเปลี่ยนแปลงนี้ 99% ของผู้พัฒนาทั่วโลกนั้นจะได้การลดลงไปโดยรวมถึง 50% ซึ่งการลดลงในส่วนนี้ก็คาดหวังว่าจะช่วยให้ผู้พัฒนาทั้งหลาย เติบโตได้ไม่ว่าจะในด้านต่าง ๆ

โดยก่อนหน้านี้นั้นบรรดานักพัฒนาทั้งหลายก็ได้ทำการเรียกร้องให้มีการลดในค่าธรรมเนียมส่วนนี้ นอกจากตัวผู้พัฒนาแล้วนั้น ก็ยังมีในส่วนของบริษัทชื่อดังอย่าง Epic Games ที่ได้ทำการฟ้องร้องทาง Apple ในประเด็นที่เกี่ยวข้อง

การเปลี่ยนแปลงนี้ถือว่าไม่ได้มีผลแต่อย่างใดกับบริษัทขนาดใหญ่ที่ทำรายได้มากกว่า 1 ล้านดอลลาร์ต่อปีอยู่แล้ว แต่มันถือว่าเป็นผลดีต่อผู้พัฒนารายย่อยต่าง ๆ ที่การจ่ายค่าธรรมเนียม 30% ของรายได้นั้นถือว่าเป็นเรื่งอใหญ่ เมื่อเทียบกับรายได้ที่ได้รับมา ก็หวังว่าการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้จะช่วยยกระดับการพัฒนาแอปพลิเคชั่นมือถือให้มากยิ่งขึ้นไปอีก และผู้พัฒนารายย่อยทั้งหลายนั้นจะสามารถลืมตาอ้าปากได้บ้าง

Bandai Namco ออกแถลงการณ์ กรณีคุกคามคนเอเชีย ในอเมริกา

หลังจากที่ในช่วงที่ผ่านมานี้ ในประเทศสหรัฐอเมริกาได้เกิด การคุกคามเหยียดคนเอเชีย (Hate Crimes against Asians) ขึ้นอยู่เรื่อย ๆ ทาง Bandai Namco จึงได้ออกแถลงการณ์ถึงกรณีดังกล่าว

Bandai Namco บริษัทผู้พัฒนา และผู้จัดจำหน่ายสัญชาติเอเชียชื่อดัง ได้ทำการออกแถลงการณ์สาธารณะถึงกรณีการเหยียมเชื้อชาติเอเชียที่ได้เกิดขึ้นอยู่เรื่อย ๆ ในช่วงที่ผ่านมานี้ ในประเทสสหรัฐอเมริกา โดยในแถลงการณ์นั้นทางบริษัทได้กล่าวถึงจุดยืนที่มีภายในเวลานี้

ในช่วงที่ผ่านมานี้ การเหยียดชนชาติเอเชียในประเทศสหรัฐอเมริกาได้เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก เนื่องด้วยการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ทำให้บรรดาชาวเอเชียทั้งหลาย ได้รับการกระทำที่ไม่ดี และรุนแรงมากขึ้น อย่างที่เราได้ทราบถึงการเสียของชายชราชาวไทยที่ถูกพลักล้มลงจนเสียชีวิตในเวลาต่อมา

ในส่วนของแถลงการณ์ของทางบริษัทได้ทำการประกาศผ่านทาง Twitter ของบริษัท โดยได้กล่าวว่า “เนื่องด้วยบริษัทนั้นมีฐานอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น ทำให้กระแสต่อต้านคนเอเชียนั้นได้ส่งผลต่อพนักงานของเราหลาย ๆ ด้วยกัน พวกเรานั้นน้อมรับการสนับสนุนจากบรรดาแฟนเกมส์ของเรา และพวกเราขอแรงสนุบสนุนของพวกคุณในการหยุดการเกลียดชังคนเอเชีย #StopAsianHate และต่อสู้กับการเพิ่มขึ้นของกระแสการเหยียดคุกคามต่อผู้คนที่มีเชื้อสายเอเชียด้วยเช่นกัน”

โดยในโพสต์ดังกล่าวนั้นก็ได้มีการแสดงถึงจุดยืนเคียงข้างกับ AAPI (กลุ่มคนชาวเอเชียอเมริกา และชาวเกาะแปซิฟิค) และได้เชิญชวนให้คนอื่น ๆ นั้นทำการพูดถึงการใช้ความรุนแรงที่เกี่ยวข้องกับการเหยียดเชื้อชาติ และการเหยียมคุกคามต่าง ๆ ทางบริษัทก็ยังได้โยงไปยังแหล่งข้อมูลที่เกี่ยวข้อง และช่องทางในการศึกษาเพื่อสนุบสนุนการหยุดการกระทำดังกล่าวอีกด้วย

นอกจากทาง Bandai แล้วนั้นภาคส่วนอื่น ๆ ก็ยังไก้มีการออกมารณรงค์เช่นเดียวกันอีกด้วยไม่ว่าจะเป็นทาง Twitch ที่ได้มีการแสดงจุดยืนต่อต้าน และบรรดานักกีฬา ดาราเชื้อสายเอเชียในประเทศก็ได้ออกมาด้วยเช่นกัน

แนะนำ : ดูดวงไพ่ยิปซี | รีวิวที่พัก | รีวิวคาเฟ่ | วิธีลดน้ำหนัก | รีวิวอนิเมะ ญี่ปุ่น